Particle Network (PARTI) ราคา

Particle Network ($PARTI) คืออะไร?

Particle Network ($PARTI) คือบล็อกเชน Layer-1 เจเนอเรชันใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแนวคิดเรื่อง Chain Abstraction (การนามธรรมเชน) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปฏิวัติวงการที่ช่วยเชื่อมต่อผู้ใช้งานและสภาพคล่องจากทุกเครือข่ายใน Web3 เข้าด้วยกัน

แกนหลักของระบบคือ บัญชีสากล (Universal Accounts) ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานบัญชีเดียวที่มียอดคงเหลือรวมจากทุกเชน และเข้าถึงแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) จากทุกบล็อกเชนได้อย่างไร้รอยต่อ

โทเค็นหลักของระบบนี้คือ $PARTI ซึ่งทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงให้กับโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในด้านการชำระค่าธรรมเนียม การแลกเปลี่ยนข้ามเชน การสเตก และการมีส่วนร่วมในระบบการกำกับดูแล

Particle Network ทำงานอย่างไร?

Particle Network มุ่งแก้ไขปัญหาหลักในโลก Web3 นั่นคือ การกระจายตัวของผู้ใช้และสภาพคล่องข้ามเครือข่าย ซึ่งเป็นอุปสรรคในการใช้งานที่ราบรื่น

บัญชีสากล (Universal Accounts)

คุณสมบัติเด่นที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถ:

• ใช้ ที่อยู่กระเป๋าเดียวกันในทุกเครือข่าย

• รวมยอดคงเหลือจากหลายเชนไว้ใน บัญชีเดียว

• ชำระค่าธรรมเนียม (gas) ด้วยโทเค็นใดก็ได้

• ใช้งาน dApp ได้ทันทีโดยไม่ต้องโอนย้ายสินทรัพย์หรือเปลี่ยนเชน

โปรโตคอลสภาพคล่องสากล (Universal Liquidity Protocol)

เป็นระบบที่ช่วยให้การแลกเปลี่ยนโทเค็นข้ามเชนสามารถทำได้แบบอัตโนมัติ ปลอดภัย และไม่ต้องใช้บริดจ์ โดยใช้ $PARTI เป็นโทเค็นตัวกลาง

Particle Chain

เป็นบล็อกเชน Layer-1 ที่ทำหน้าที่ประสานและจัดการธุรกรรมในระบบ ประกอบด้วยโมดูลหลัก:

• Master Keystore Hub: ซิงโครไนซ์สถานะบัญชีในทุกเชน

• เครือข่ายข้อความแบบกระจายศูนย์: ติดตามสถานะของธุรกรรมข้ามเชน

• Bundler แบบกระจายศูนย์: ดำเนินการธุรกรรมที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว

เครือข่ายนี้ใช้ระบบ Dual Staking (การสเตกสองชั้น) โดยใช้ทั้ง $PARTI และ $BTC เพื่อเพิ่มความมั่นคงและความกระจายอำนาจ

ใครคือผู้ก่อตั้ง Particle Network?

Particle Network เปิดตัวในปี 2022 โดยเริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการ Wallet Abstraction ที่ให้ผู้ใช้สร้างกระเป๋าเงินผ่านบัญชี Web2 อย่าง Google หรือ Twitter

ต่อมา ได้พัฒนาเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้าน Account Abstraction (AA) ที่ใหญ่ที่สุดใน Web3 ด้วยผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ เช่น:

• ดำเนินธุรกรรม (UserOps) มากกว่า 20 ล้านครั้ง

• คุ้มครองสินทรัพย์รวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

• รองรับเครือข่ายมากกว่า 70 บล็อกเชน

• รวมเข้ากับ dApp กว่า 7,000 แอป

หลังจากสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง Particle Network ก็ก้าวสู่ขั้นต่อไปด้วย บัญชีสากล (Universal Accounts) และ บล็อกเชน Layer-1 ของตนเอง

Particle Network แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร?

1. การนามธรรมเชนอย่างแท้จริง

โปรเจกต์ทั่วไปมักให้บริการบริดจ์หรือการส่งข้อความข้ามเชน แต่ Particle Network เสนอประสบการณ์ใช้งานที่เป็นหนึ่งเดียว ผู้ใช้ไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่ากำลังใช้งานอยู่บนเชนใด

2. หนึ่งบัญชี ใช้ได้ทุกเครือข่าย

ไม่ต้องจัดการกระเป๋าหลายใบอีกต่อไป แค่ บัญชีเดียว ก็เข้าถึง Web3 ทั้งหมดได้

3. ระบบความปลอดภัยแบบสองชั้น

การตรวจสอบบล็อกต้องผ่าน ผู้ตรวจสอบที่สเตก $PARTI และ $BTC ทั้งสองกลุ่ม ทำให้ปลอดภัยและกระจายอำนาจจริง

4. Layer-1 เพื่อโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่สำหรับ dApp

Particle Chain ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ dApp รันบนมัน แต่เพื่อเป็น ตัวประสานกลางของทุกเชน และอำนวยความสะดวกให้ Web3 แบบไร้พรมแดน

ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อราคา $PARTI?

หลายปัจจัยที่อาจมีอิทธิพลต่อราคา $PARTI ได้แก่:

1. การยอมรับของระบบนิเวศ
ยิ่งมี dApp และผู้ใช้งาน Universal Accounts มากเท่าไร ความต้องการใช้ $PARTI ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น

2. ประโยชน์การใช้งานของโทเค็น $PARTI มีบทบาทเป็น:

• โทเค็นจ่ายค่าธรรมเนียม (gas)

• ตัวกลางในการสวอปข้ามเชน

• โทเค็นสำหรับสเตกและโหวตในระบบ

3. พันธมิตรและการบูรณาการ การร่วมมือกับบล็อกเชนและโปรเจกต์อื่น ๆ ส่งผลดีต่อการรับรู้และการใช้งานโทเค็น

4. แนวโน้มตลาดคริปโต ทั้งราคา BTC, ทิศทางตลาด และกฎระเบียบ ล้วนมีผลทางอ้อมต่อราคา $PARTI

5. Tokenomics $PARTI มีอุปทานสูงสุดที่ 1 พันล้านโทเค็น และมีแผนปล่อยแบบลดลงเรื่อย ๆ ทำให้มีโอกาสเกิดการขาดแคลนในระยะยาว

6. พัฒนาการด้านเทคโนโลยี หาก Particle Network ปล่อยอัปเดต SDK หรือเพิ่มความสามารถใหม่ ก็อาจทำให้ผู้ใช้และนักพัฒนาสนใจมากยิ่งขึ้น

$PARTI เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

ด้วยภารกิจในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน Web3 ที่เชื่อมโยงทุกเครือข่ายเข้าด้วยกัน Particle Network เสนอทางออกที่ตรงจุดที่สุดในยุคที่ Web3 กลายเป็นโลกหลายเชนแบบแยกขาด

$PARTI ไม่ใช่แค่โทเค็นธรรมดา แต่เป็น ส่วนสำคัญของระบบที่กำลังถูกใช้งานจริง มากกว่า 30 ล้านกระเป๋าเงินและกว่า 7,000 dApps ได้รวมเข้ากับเครือข่ายนี้แล้ว

เช่นเดียวกับการลงทุนในคริปโตทั้งหมด ควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรเข้าใจเทคโนโลยี โมเดลเศรษฐกิจ และกลไกตลาด ศึกษาได้จากแหล่งข้อมูลเช่น หน้าโปรเจกต์คาดการณ์ราคาของ BingX และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินก่อนตัดสินใจ
และที่สำคัญที่สุด: ควรถือ $PARTI เป็น ส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ใช่กลยุทธ์เดี่ยว

จะเก็บรักษา $PARTI อย่างปลอดภัยได้อย่างไร?

การเก็บรักษา $PARTI (หรือโทเค็นใด ๆ) อย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ โดยทั่วไปมี 2 วิธีหลัก:

การจัดเก็บแบบออฟไลน์ (Cold Wallet)

เช่น Ledger, Trezor หรือกระเป๋ากระดาษ – เหมาะสำหรับการถือระยะยาว เพราะ คีย์ส่วนตัวไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ลดความเสี่ยงจากการถูกแฮก

การจัดเก็บแบบออนไลน์ (Hot Wallet)

เช่น Trust Wallet, Exodus หรือกระเป๋าที่อยู่ในแพลตฟอร์มเทรดเช่น BingX – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานประจำวัน แต่ควรระวังด้านความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ

เคล็ดลับด้านความปลอดภัย:

เก็บ คีย์ส่วนตัวและ Seed Phrase ไว้ในที่ปลอดภัย

เปิดใช้งาน การยืนยันแบบ 2 ชั้น (2FA)

ใช้กระเป๋าเย็นเก็บสินทรัพย์ส่วนใหญ่ และใช้กระเป๋าร้อนเฉพาะการใช้งานประจำ

อย่าเชื่อมกระเป๋ากับเว็บไซต์หรือ Smart Contract ที่ไม่น่าเชื่อถือ

“ไม่ใช่กุญแจของคุณ ก็ไม่ใช่เหรียญของคุณ” คุณเป็นเจ้าของ $PARTI จริง ๆ ก็ต่อเมื่อคุณ ถือคีย์ส่วนตัวของกระเป๋านั้น